ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่ผู้รัก “อาหารไทย” และนักเดินทางไม่ควรพลาด ตั้งแต่แกงกะหรี่น่ารับประทาน ของขบเคี้ยวริมทาง และของหวานแสนอร่อย ไปจนถึงอาหารไทยต้นตำรับ มีตัวเลือกมากมายให้ลอง ซึ่งคุณจะพบว่าเป็นการยากที่จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดจากรายการ
บทความนี้นำเสนอ 10 อาหารไทย ที่ดีที่สุดที่คุณจะลองชิมในประเทศไทย ของอร่อยเมืองไทยนั้นมีมากมาย อาหารไทยที่ดีที่สุดที่คุณควรรู้นั้นไม่ได้เรียงตามลำดับเนื่องจากเป็นอาหารจานโปรดของเรา! ดังนั้น หากคุณเป็นคนรักอาหาร และอยากลองอาหารไทยที่แตกต่าง นี่คือ 10 อาหารไทย ที่ดีที่สุดที่คุณต้องลองเมื่อมาเยือนประเทศไทย
อาหารไทย #1
ต้มยำกุ้ง
ต้มยำกุ้ง เป็นซุปรสเผ็ดแบบไทยที่เป็นที่นิยมมาก และเป็นอาหารที่ทำให้คนหลงใหลในรสชาติของอาหารไทย สูตรดั้งเดิมถูกสร้างขึ้นโดยราชวงศ์ในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2330 แต่ในปัจจุบันมีรูปแบบที่แตกต่างกันมากมาย ต้มยำกุ้งสามารถทำได้โดยใช้กุ้งหลายชนิด เนื่องจากคำว่า “กุ้ง” หมายถึงกุ้งในภาษาไทย พันธุ์ที่นิยมใช้ได้แก่ กุ้งกุลาดำ กุ้งกุลาดำ และกุ้งขาว และส่วนผสมอื่น ๆ ที่ใช้ปรุงรสชาติ เช่น ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และขมิ้น

วิธีการทำต้มยำกุ้ง
สำหรับขั้นตอนการทำต้มยำกุ้ง มีดคือดังนี้:
- นำน้ำมาใส่ในหม้อ ตั้งไฟอย่างกลาง และรอให้น้ำเดือด
- ใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และขมิ้นลงในหม้อ คนให้หอม
- เพิ่มน้ำปลา น้ำตาล และน้ำมะนาวลงในหม้อ คนให้เกลือละลาย และรสชาติของซุปเข้มข้น
- ใส่กุ้งลงในหม้อ ต้มให้กุ้งสุก
- เพิ่มเมล็ดผักชี ถั่วลิสง และหอมแดงลงในหม้อ คนให้เข้ากัน
- ปิดไฟและตักเสิร์ฟต้มยำกุ้งที่เราทำขึ้น
เคล็ดลับในการทำต้มยำกุ้งให้อร่อย
- การใช้กุ้งที่สดใหม่และสะอาด เพื่อให้รสชาติของต้มยำกุ้งที่เนื้อกุ้งออกมาอร่อยและหอม
- การใส่ส่วนผสมในต้มยำกุ้งให้เพียงพอและสมดุลย์ ไม่ให้ส่วนผสมใดๆ มีอยู่เกินหรือขาดตามสูตรที่กำหนด
- การใช้น้ำมะนาวเพื่อเพิ่มรสชาติความเปรี้ยวให้กับซุปต้มยำกุ้ง
- การคนให้หอมหลังจากใส่ส่วนผสมที่เผยแพร่กลิ่นหอม เช่น ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และขมิ้น
ด้วยเคล็ดลับเหล่านี้ คุณจะสามารถทำต้มยำกุ้งที่อร่อยและเป็นที่รู้จักในระดับโลกได้ง่ายๆ และครอบคลุมความสนใจของชาวไทยและชาวต่างชาติที่ต้องการสัมผัสรสชาติและความอร่อยของอาหารไทย สุดท้ายก็อย่าลืมเสิร์ฟต้มยำกุ้งร้อนๆ พร้อมกับข้าวสวยและเครื่องเคียงตามชอบเพื่อให้การรับประทานอาหารเป็นที่เพลิดเพลินสุดๆกันครับ
เกร็ดความรู้: รู้หรือไม่?! ต้มยำกุ้งมีสองประเภท คือ แบบซุปใส (น้ำใส) และ แบบซุปครีม (น้ำข้น) ซึ่งคุณควรระวังเมื่อสั่ง ต้มยำน้ำใสดีที่สุดสำหรับสุขภาพของคุณ ในขณะที่ต้นยำน้ำข้มจะเป็นแบบที่เสิร์ฟบ่อยที่สุดและดีที่สุดสำหรับรสชาติและความสมบูรณ์ของน้ำซุป
อาหารไทย #2
ต้มข่าไก่
ต้มข่าไก่ เป็นซุปไก่สไตล์ไทยที่ทำจากกะทิ เป็นอาหารง่ายๆ แต่เป็นหนึ่งในซุปที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย ทำไม? เพราะมันอิ่มท้อง อิ่มใจ และเป็นหนึ่งในรสชาติที่อร่อยที่สุด!
ต้มข่าไก่หรือที่เรียกว่า “ไก่ในซุปมะพร้าว” เป็นอาหารไทยยอดนิยมที่ทำจากไก่และกะทิ อาหารชนิดนี้มีข้อดีที่น่าสนใจมากมาย ซึ่งเหตุผลที่ทำให้มันเป็นที่นิยม ได้แก่โซเดียมต่ำ แคลอรีต่ำ และมีโปรตีนสูง ทำให้เป็นตัวเลือกอาหารที่มีคุณค่าโภชนาการสูง และเหมาะสำหรับคนที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ นอกจากนี้ยังเสริมสร้างความอร่อยด้วยรสชาติของข่าที่เข้มข้นและหอมหวาน

วิธีการทำต้มข่าไข่
สำหรับการเตรียมต้มข่าไก่ให้ทำตามขั้นตอนดังนี้:
- เตรียมส่วนผสม: นำมะพร้าวสีน้ำตาลขนาดใหญ่มากระเด็นเปิดเสียก่อนนำกะทิออกมาใส่หม้อที่เตรียมไว้
- ต้มกะทิ: นำกะทิไปต้มให้เดือด แล้วลดไฟให้กะทิค่อยๆ ลวกจนมีหน้าซุปลอยขึ้นมาบนผิว
- เตรียมไก่: นำน่องไก่ที่แล้วเลือกสะอาดมาล้างให้สะอาด โดยควรตัดออกส่วนของไขมันที่มากเกินไป
- นำไก่ไปต้มในกะทิ: นำน่องไก่ที่เตรียมไว้ลงในกะทิที่ได้ต้มให้เดือด ต้มให้น่องไก่สุกสุด ๆ และกะทิมีกลิ่นหอมของข่าและต้นหอม
เคล็ดลับในการทำต้มข่าไก่ให้อร่อย
- มะพร้าวที่ใช้ในการทำต้มข่าไก่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากมะพร้าวชนิดที่เหมาะสำหรับต้มข่าไก่คือมะพร้าวสีน้ำตาลขนาดใหญ่ แข็ง มะพร้าวชนิดนี้เป็นที่นิยมในการทำซุปเพื่อให้ได้รสชาติที่เข้มข้น
- กุญแจสำคัญในการทำซุปนี้ให้อร่อย คือการใช้น่องไก่แทนอกไก่ เพราะน่องไก่มีรสชาติมากกว่าและมีไขมันเยอะ ซึ่งจะทำให้ซุปนี้มีความเข้มข้นที่ดี เนื่องจากไขมันในไก่จะอยู่ที่บริเวณต้นขามากกว่าที่บริเวณอกไก่นั่นเอง จึงทำให้ซุปต้มข่าไก่มีความหอมและเข้มข้นมากยิ่งขึ้น
- เมื่อต้มข่าไก่เสร็จสิ้นแล้ว ควรเสิร์ฟร้อนๆ ระหว่างกินควรรับประทานกับข้าวสวยเพื่อสัมผัสรสชาติที่เต็มเปี่ยมของซุปและไก่ที่สุกจนกรอบ สามารถเสิร์ฟพร้อมกับเครื่องเคียงตามชอบเช่น พริกชี้ฟ้าหรือหอมแดงซอย ซึ่งจะเพิ่มรสชาติและความหอมของอาหารไทยชุดนี้ได้อย่างลงตัว
ต้มข่าไก่เป็นอาหารที่มีประโยชน์ในด้านโภชนาการและมีรสชาติที่อร่อยน่าหลงใหล ไม่เว้นแต่การเติมเครื่องเทศและส่วนผสมต่าง ๆ ให้เป็นอย่างถูกต้องและมีความสมดุลย์ในการใช้วัตถุดิบ อาหารนี้ถือเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของอาหารไทยที่น่าอิ่มอกอิ่มใจในทุกๆ มื้ออาหาร
อาหารไทย #3
ส้มตำ
ส้มตำ ถือเป็นอาหารไทยที่เป็นที่นิยมมากทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศ มักเป็นอาหารว่างหรือเครื่องเคียงที่เรียกน้ำย่อย นอกจากนี้ยังมีรสชาติที่เผ็ดหวานและสีสันสดใส การทำส้มตำต้องเตรียมส่วนผสมจากมะละกอดิบที่หั่นฝอย และใส่น้ำตาล น้ำมะนาว และเกลือเล็กน้อย จากนั้นใส่กุ้งแห้งด้านบนและพร้อมสำหรับเสิร์ฟ

วิธีการทำส้มตำ
- นำมะละกอดิบหั่นฝอยมาใส่ในชาม
- เพิ่มน้ำตาล น้ำมะนาว น้ำปลา และเกลือเล็กน้อยลงไป คนให้เข้ากันเพื่อให้ส้มตำเป็นรสหวานอมเปรี้ยวและมีรสเค็มนำ้ปลาจากเกลือ
- ใส่พริกขี้หนูหั่นเส้นลงไปและคนให้เข้ากัน
- ใส่กุ้งแห้งด้านบนและคนเบาๆ เพื่อให้กุ้งแน่นหนาติดทั้งราวส้มตำ
เคล็ดลับในการทำส้มตำให้อร่อย
- ใช้ส่วนผสมสดใหม่และสะอาดเสมอ เพื่อให้ส้มตำมีรสชาติและความหอมอร่อยที่ดี
- ใช้ส้มหวานในการทำส้มตำ เพื่อให้ส้มตำมีความหวานเปรี้ยวที่สมดุลย์
- ควรใส่พริกขี้หนูตามรสชาติที่ต้องการ เพื่อเพิ่มระดับความเผ็ดและเข้มข้นของส้มตำ
- ลองใส่ส่วนผสมเสริมเพิ่มเติม เช่น ถั่วลิสง หอมแดง หรือข้าวเหนียว เพื่อให้ส้มตำมีความหนุ่มนุ่ม และสัมผัสรสชาติที่น่าตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น
ส้มตำเป็นอาหารที่มีความสดชื่นและอร่อยซึ่งเหมาะทั้งในช่วงเวลากลางวันและในการเป็นเครื่องเสิร์ฟในงานเลี้ยง นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพด้วยการให้วิตามินและแร่ธาตุหลากหลายที่มากมาย เช่น โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส แคลเซียม เหล็ก และสังกะสี นอกจากนี้ยังเป็นอาหารที่มีแคลอรีต่ำ ทำให้เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักด้วยความอร่อยและคุณค่าโภชนาการที่ดี
อาหารไทย #4
พะแนงไก่
แพนงไก่ เป็นอาหารไทยที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมมาก มักพบในร้านอาหารไทยทั่วไป จานนี้ประกอบด้วยเนื้อไก่ที่ปรุงรสด้วยกะทิ พริกและสมุนไพรต่างๆ ทำให้เป็นหนึ่งในเมนูที่ได้รับความนิยมอันดับต้นๆ ของทางร้านอาหารไทย
แกงพะแนงเป็นหนึ่งในอาหารยอดนิยมในประเทศไทยและประกอบด้วยส่วนผสมพื้นฐานที่เหมือนกัน รวมทั้งน้ำพริกแกงเผ็ด กินกับข้าวสวยร้อนๆ เผ็ดกำลังดี โดยเฉพาะมื้อกลางวัน!

วิธีการทำแพนงไก่
- นำเนื้อไก่มาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ และคนให้เครื่องปรุงรสแปรรูปซึ่งประกอบด้วยพริกแกงแดง กระเทียม หอมแดง ข่า และใบมะกรูด จนเป็นเครื่องแกงพร้อมใช้
- นำกะทิมาใส่หม้อต้ม และตั้งไฟอย่างกลาง
- เมื่อกะทิเริ่มเดือด ใส่เครื่องปรุงรสที่เตรียมไว้ลงไป คนให้เข้ากันให้เป็นซอสแกง
- ใส่เนื้อไก่ลงในซอสแกง ต้มให้เนื้อไก่สุกและนุ่ม
- เพิ่มผักสด เช่น ใบกระเพราหรือใบโหระพา ลงไปคนให้เข้ากัน
- เติมน้ำปลา น้ำตาล และน้ำมะนาวเพื่อปรับรสชาติให้เป็นเอกลักษณ์ของแพนงไก่
- เมื่อผักสดสุกตักเสิร์ฟแพนงไก่ที่เราทำขึ้นพร้อมเสิร์ฟ
เคล็ดลับในการทำแพนงไก่ให้อร่อย
- ควรใช้เนื้อไก่สดและสะอาด เพื่อให้แพนงไก่มีรสชาติและความหอมอร่อยที่ดี
- ประเภทของมะพร้าวที่ใช้มีความสำคัญ เพราะเป็นตัวกำหนดรสชาติของจาน ยิ่งมะพร้าวสดมากรสชาติก็ยิ่งดี
- หากใช้มะพร้าวแห้งในการทำแพนง ควรแช่ในน้ำร้อนก่อนจึงจะใส่เครื่องปรุงรสและผักลงไปได้
- ควรใช้กะทิสดเป็นอย่างแรกในการทำแพนง เนื่องจากกะทิสดมีรสชาติกลมกล่อมที่ดี
- ควรผัดเครื่องปรุงรสกับกะทิจนเป็นเครื่องแกงพร้อมใช้ เพื่อให้ส่วนผสมแปรรูปและปรุงรสเข้ากันอย่างดี
แพนงไก่เป็นอาหารที่อร่อยและหอมหวานซึ่งเหมาะทั้งในเวลากลางวันและในงานเลี้ยง นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพด้วยการให้โปรตีนและพลังงานที่มีความสำคัญในการให้กำลังในชีวิตประจำวัน
อาหารไทย #5
ผัดไทย
ผัดไทย ได้กลายเป็นหนึ่งในอาหารประจำชาติของประเทศไทย ได้รับความนิยมไปทั่วโลก จากข้อมูลในปี 2546 จากวิกิพีเดียภาษาไทย มีร้านอาหารไทยกว่า 6,800 ร้านกระจายอยู่ทั่วโลก และทุกร้านมีผัดไทย
เดิมทีผัดไทยเป็นอาหารที่ได้รับอิทธิพลจากอาหารจีน “ผัดหมี่” แล้วมีรสชาติที่เปลี่ยนไปตามอาหารไทยมากขึ้นในภายหลัง ผัดไทยในสมัยก่อนใช้เส้นจันทบูรเป็นเส้นสำหรับผัด

ตอนแรกผัดไทยไม่ใส่หมูเพราะเป็นผัดซีอิ๊วที่ดูคล้ายอาหารจีนมากกว่า ผัดไทยจึงใส่กุ้งแห้งใส่เต้าหู้เหลือง มะนาว ใบกระเทียม กะหล่ำปลี และถั่วงอก ซึ่งเป็นวัตถุดิบของประเทศไทย ชื่อของผัดไทยเดิมคือ “ผัดหมี่” ต่อด้วย “ผัดไทย” และต่อมาเรียกว่า “ผัดไทย”
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผัดไทยสูตรดั้งเดิมได้พัฒนาขึ้น สูตรที่ใช้กันมากที่สุดสำหรับผัดไทยยังคงใช้เส้นหมี่ น้ำมะขาม และน้ำปลา นอกจากนี้ผัดไทยไม่ใช่อาหารรสจัด ทำให้คนส่วนใหญ่ทานได้ จึงเป็นที่ชื่นชอบตลอดกาลและเป็นที่นิยมมากที่สุดในอาหารไทย
วิธีการทำผัดไทย
- เริ่มต้มน้ำในหม้อให้เดือด และใส่เส้นหมี่ลงไปต้มจนสุก จากนั้นตักเส้นหมี่ออกและเสียบให้เย็น
- ในกระทะตั้งไฟกลาง ใส่น้ำมันรำข้าวลงไปและรอให้ร้อน
- ใส่กระเทียมสับลงไปและคนให้หอม
- เพิ่มเนื้อไก่หรือเนื้อกุ้งลงไปผัดจนสุก
- ใส่เนื้อสัตว์ที่เลือกใช้ลงไป ตามด้วยหมูสับ หรือกุ้งแห้ง และเต้าหู้เหลือง
- ใส่เส้นหมี่ที่ต้มสุกลงไปในกระทะ และผัดให้เข้ากัน
- เพิ่มน้ำมะขามเปียกและน้ำปลาลงไป คนให้เข้ากันในระดับรสชาติที่ต้องการ
- ใส่ไข่ไก่ลงไปในกระทะและคนให้เข้ากันกับเส้นหมี่และเนื้อสัตว์ที่ใช้
- เพิ่มถั่วงอก น้ำตาล และพริกไทยลงไป คนให้ทุกอย่างเข้ากัน
- ใส่ผักสดเช่น ใบกระเพรา หรือใบโหระพาลงไป คนให้เข้ากันในระดับความเข้มข้นที่ชอบ
- ตักผัดไทยใส่จาน พร้อมทับทิม ถั่วลิสง และหอมแดงบนสุด และเสิร์ฟพร้อมกับเครื่องเคียงเช่น พริกสด น้ำตาล น้ำปลา และข้าวเส้นสวย
เคล็ดลับในการทำผัดไทยให้อร่อย
- เนื้อสัตว์ที่ใช้ควรเป็นเนื้อสดและสะอาด เพื่อให้ผัดไทยมีรสชาติและกลิ่นหอมเป็นอย่างดี
- ควรใช้เส้นหมี่ที่มีคุณภาพดี เนื่องจากเส้นหมี่ที่อุ่นแล้วจะมีความนุ่มนวลและไม่หักเป็นก้อน
- การใส่ส่วนผสมในผัดไทยควรคนให้เข้ากันให้ดี เพื่อให้รสชาติและกลิ่นหอมของทุกส่วนผสมเข้ากันอย่างเป็นอย่างดี
- ห้ามใช้น้ำมันเยอะมากในการทำผัดไทย เพราะจะทำให้เมนูอาหารดูมันขี้น
- สามารถปรับรสชาติของผัดไทยได้ตามความชอบของแต่ละคน โดยการเพิ่มหรือลดปริมาณเครื่องปรุงรสต่างๆ
ผัดไทยเป็นเมนูอาหารที่อร่อยและน่ากลับมาลองทำเองในบ้านเพื่อให้ได้ประสบการณ์ทางการทำอาหารแบบแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือชาวต่างชาติ ทุกคนต่างมีความชื่นชอบต่อรสชาติ
อาหารไทย #6
แกงเขียวหวานไก่
แกงเขียวหวาน เป็นแกงไทยที่ประกอบด้วยเนื้อ ปลา ไก่ หรือหมู และผัก ปรุงรสด้วยกะทิ น้ำตาล น้ำปลา ใบมะกรูด และโหระพา
นิยมทานกับข้าวสวยหรือขนมจีนเป็นอาหารจานเดียว พริกแกงเขียวเพราะพริกเขียวแทนสีแดง บางท้องที่ก็ใส่ใบพริกลงไปด้วย

แกงเขียวหวานมักมาในเบญจรงค์ที่หายากซึ่งเป็นชามเซรามิกขนาดเล็กที่มีมูลค่าสูง นอกจากนี้ ร้านอาหารไทยบางแห่งยังเสิร์ฟแกงเขียวหวานเนื้อกับโรตีเป็นขนมปังแผ่นแบนสไตล์อินเดียที่คล้ายกับโรตีคานาอิในมาเลเซีย
วิธีการทำแกงเขียวหวาน
- เริ่มต้มน้ำในหม้อให้เดือด และใส่พริกเขียวและพริกแห้งลงไปต้มจนสุก จากนั้นตักพริกออกและเตรียมใส่ในครกและปั่นให้ละเอียด
- ตั้งกระทะให้ร้อน และใส่น้ำมันรำข้าวลงไป
- เมื่อน้ำมันร้อนใส่เนื้อสัตว์หรือปลาที่ตัดเป็นชิ้นลงไปผัดจนสุก
- เพิ่มกะทิลงไปในกระทะ คนให้เข้ากันกับเนื้อสัตว์หรือปลา
- เติมน้ำตาล น้ำปลา ใบมะกรูด ใบโหระพา และน้ำมะขามเปียกลงไปคนให้เข้ากัน
- ตักแกงเขียวหวานใส่ชามและเสิร์ฟพร้อมกับข้าวสวยหรือขนมจีน
เคล็ดลับในการทำแกงเขียวหวานให้อร่อย
- การใช้พริกเขียวให้เปรี้ยวและหวานเพื่อให้แกงมีรสชาติที่คล้ายกับชื่อ “เขียวหวาน”
- ควรใช้เนื้อสัตว์หรือปลาที่สดและสะอาด เพื่อให้แกงมีรสชาติและกลิ่นหอมเปรี้ยวเป็นอย่างดี
- เลือกใช้ใบมะกรูดและใบโหระพาที่สดอยู่เสมอ เพื่อให้แกงมีกลิ่นหอมของใบสด
- ใส่กะทิในขณะที่เนื้อสัตว์หรือปลายังไม่สุกเต็มที่ ซึ่งจะทำให้กลิ่นและรสชาติของกะทิซึมเข้าไปในเนื้อสัตว์หรือปลา
- ใส่น้ำมะขามเปียกลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติเปรี้ยวหวานให้แกงเขียวหวานเป็นอร่อย
แกงเขียวหวานเป็นอาหารที่เป็นที่นิยมและเป็นเมนูที่คุณควรลองทำเองที่บ้าน เพื่อให้ได้รสชาติและกลิ่นหอมที่ถูกใจและสามารถปรับความเผ็ดหรือหวานได้ตามความชอบของแต่ละคน
อาหารไทย#7
ผัดกระเพราหมู
ผัดกะเพราหมู เป็นอาหารไทยที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่ง เช่น อาหารข้างทาง (Street Food) ซึ่งเป็นอาหารตามสั่งที่พบได้ทั่วไปในประเทศไทย

ผัดกระเพราหมูใช้วิธีการผัดส่วนผสมให้เข้ากันกับน้ำปลาและน้ำตาลสำหรับปรุงรส ต่อจากนี้ บางคนก็ใส่ซีอิ๊วดำ พริกไทยป่น และน้ำสต็อกลงไปผัด แนะนำให้กินผัดกระเพราหมูกับข้าวสวย ไข่ดาว น้ำปลา ให้เผ็ดแซ่บขึ้น
วิธีการทำผัดกะเพราหมู
- ตั้งกระทะให้ร้อนและใส่น้ำมันลงไป พร้อมทำการผัดกระเทียมและพริกขี้หนูซอยให้หอม
- ใส่เนื้อหมูหั่นเป็นชิ้นลงไปผัดให้สุกและกรอบ
- เมื่อเนื้อหมูสุกแล้ว ใส่ใบโหระพาและถั่วฝักยาวลงไปผัดให้เข้ากัน
- เติมน้ำปลาและน้ำตาลเพื่อปรับรสชาติให้เป็นเผ็ดหวานตามความชอบ และใส่พริกไทยป่นและซีอิ๊วดำให้เข้ากัน
- ตักผัดกะเพราหมูใส่จาน และเสิร์ฟพร้อมกับข้าวสวยและไข่ดาว
เคล็ดลับในการทำผัดกะเพราหมูให้อร่อย
- ใช้กระทะที่ร้อนและน้ำมันในปริมาณเหมาะสม เพื่อให้เนื้อหมูที่ตั้งหน้าเข้าสุกและกรอบ
- การใช้กระเทียมและพริกขี้หนูในการผัดทำให้มีกลิ่นหอมและรสชาติเผ็ดแสนอร่อย
- ควรใส่ใบโหระพาและถั่วฝักยาวในขั้นตอนสุดท้ายเพื่อให้ผัดกะเพราหมูมีรสชาติ กลิ่นหอมของใบสด และสีสันที่น่ารับประทาน
- ใส่น้ำปลาและน้ำตาลให้เปรี้ยวหวานตามความชอบเพื่อปรับรสชาติให้เป็นเผ็ดหวานที่ถูกใจ
อย่างไรก็ตาม ผัดกะเพราหมูเป็นอาหารที่สามารถปรับปรุงรสชาติตามความชอบและความเผ็ดหวานได้ตามต้องการของแต่ละคน มีทั้งเนื้อ ใบโหระพา ถั่วฝักยาว พริก และกระเทียม นอกจากนี้ยังมีผักบางชนิด เช่น ข้าวโพดอ่อน แครอท หัวหอม และเนื้อสัตว์ที่ใช้ในการผัดกะเพรา เป็นทางเลือกแทนผัดกระเพราหมู ใส่ไก่ เนื้อวัว กุ้ง ปลาหมึก หรือแม้แต่ปลา หอยแมลงภู่ เนื้อปู แล้วแต่ความชอบ ทานกับข้าวสวยและไข่ดาวจะเพิ่มความอร่อย และถือเป็นอีกเมนูที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในอาหารไทย
อาหารไทย#8
ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์
ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ หรือบางครั้งเรียกสั้นๆว่า “ไก่ผัดเม็ดมะม่วง” เป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารไทยที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เนื่องจากรสชาติความอร่อยและความหลากหลายของวัตถุดิบที่นำมาผสมกันได้อย่างลงตัว มีรสเผ็ดเล็กน้อยจากพริกแห้งคั่ว ความกรุบกรอบของเม็ดมะม่วงหิมพานต์ รวมถึงเนื้อไก่ทอดที่ชุ่มซอสทำให้หลายๆคนติดใจเมนูนี้จนต้องสั่งทุกครั้งที่มีโอกาสแวะเข้าร้านอาหารไทย

วัตถุดิบสำหรับการทำไก่ผัดเม็ดมะม่วง
- เนื้อไก่ (หั่นชิ้นบางๆ)
- เม็ดมะม่วงหิมพานต์ (สดหรือแช่น้ำ)
- กระเทียมสับ
- หอมหัวใหญ่หรือหอมแดงสับ
- พริกแดงสับ (หากต้องการเผ็ดมากขึ้น)
- ซอสหอยนางรม
- น้ำมันพืชสำหรับผัด
- ใบโหระพา
วิธีการทำไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์
- ตั้งกระทะให้ร้อนและใส่น้ำมันลงไป พร้อมทำการผัดกระเทียมสับและพริกแดงสับให้หอม
- เพิ่มเนื้อไก่ลงไปผัดให้สุกและเริ่มเหลือง
- ใส่เม็ดมะม่วงหิมพานต์ลงไปผัดให้เข้ากันกับเนื้อไก่
- เติมซอสหอยนางรมเพื่อเพิ่มรสชาติหวานเค็มให้กับเม็ดมะม่วงหิมพานต์และไก่
- ใส่หอมหัวใหญ่หรือหอมแดงสับลงไปผัดให้เริ่มจะสุก
- เมื่อเนื้อไก่สุกและเม็ดมะม่วงหิมพานต์นิ่มจนเริ่มมีน้ำเกิดขึ้น ใส่ใบโหระพาลงไปผัดให้เข้ากัน
- ปิดไฟและตักไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ใส่จาน พร้อมเสิร์ฟคู่กับข้าวสวย
เคล็ดลับในการทำไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ให้อร่อย
- เลือกใช้เนื้อไก่ที่สดและนุ่มนวลเพื่อให้ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ที่ทำออกมานุ่มนวลและอร่อยมากที่สุด
- ใส่เม็ดมะม่วงหิมพานต์ในขั้นตอนล่าสุดเพื่อให้เม็ดมะม่วงหิมพานต์คงรสชาติและความกรอบของเม็ดมะม่วงไว้ ซึ่งเป็นส่วนที่ให้ความหอมและความกรอบสำคัญในเมนูนี้
- ใช้ซอสหอยนางรมเพื่อเพิ่มรสชาติหวานเค็มที่เข้ากับเม็ดมะม่วงหิมพานต์และไก่ ทำให้เมนูมีความคล้ายคลึงกับรสชาติของอาหารไทยแท้ๆ และมีรสเค็มน้ำนมให้กับไก่
- ใส่ใบโหระพาในขั้นตอนสุดท้ายเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมของใบโหระพา ที่ถูกเทลงไว้ในอาหารไทยบูรณาการ และให้ความรับรสให้กับเมนูไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์เป็นอย่างดี
ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เมนูแสนอร่อยของอาหารไทยที่มาพร้อมกับรสชาติเผ็ดเข้มข้นและกลิ่นหอมของเม็ดมะม่วงหิมพานต์ การผัดไก่และเม็ดมะม่วงหิมพานต์ด้วยซอสหอยนางรมทำให้มีรสชาติหวานเค็มอร่อย ควรเสิร์ฟคู่กับข้าวสวยร้อนๆ เพื่อความเข้ากันอย่างสมบูรณ์ สามารถลองทำตามและดูเคล็ดลับในการทำเมนูนี้ให้อร่อย เพื่อสร้างประสบการณ์ด้านอาหารที่น่าจดจำกับรสชาติแห่งไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์กันเถอะ!
อาหารไทย#9
ข้าวซอยไก่
ข้าวซอยไก่ เป็นอาหารพื้นบ้านที่ได้รับความนิยมอย่างมากในภาคเหนือของประเทศไทย คำว่า “ข้าวซอย” นั้นมาจาก “ก๋วยเตี๋ยว” ที่ใช้แป้งสาลีผสมกับน้ำและไข่เพื่อทำบะหมี่พิเศษเหล่านี้ จากนั้นจึงนวดแป้งสาลีจนเป็นเนื้อเนียนแล้วม้วนเป็นแผ่น จากนั้นเชฟผู้เชี่ยวชาญจะหั่นเป็นแผ่นบางๆ ซึ่งแปลว่า “ซอย” ในภาษาไทย

เครื่องเคียง ได้แก่ ผักกาดดอง หอมแดง สลัดกะหล่ำปลี และเครื่องปรุงรส เช่น พริกผัดน้ำมัน น้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำตาล ในสูตรดั้งเดิมนั้นเนื้อเป็นไก่ แต่ปัจจุบันหลายร้านใช้เนื้อหมูหรือเนื้อวัวแทน บางแห่งอาจเพิ่มอาหารทะเลหรือเต้าหู้เป็นส่วนผสมด้วย
วิธีการทำข้าวซอยไก่
- หั่นเนื้อไก่เป็นชิ้นเล็กๆ และนำไปต้มในน้ำเล็กน้อยจนสุกสุด ระหว่างนี้สามารถใส่เกลือเล็กน้อยเพื่อให้ไก่อร่อยขึ้น
- ทำเส้นโดยนำแป้งสาลีผสมน้ำและไข่ให้เข้ากัน จากนั้นนวดแป้งสาลีจนเป็นเนื้อเนียนและม้วนเป็นแผ่นบางๆ
- หั่นแผ่นแป้งเป็นส่วนเล็กๆ ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกับก๋วยเตี๋ยว หรือเพื่อความสะดวกสามารถใช้เส้นบะหมี่ไข่แทนได้
- สำหรับเครื่องเคียง ใช้ผักกาดดอง หอมแดง สลัดกะหล่ำปลี และเครื่องปรุงรสเช่น พริกผัดน้ำมัน น้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำตาล ในการปรุงรส
เคล็ดลับการทำข้าวซอยไก่
- ใส่หอมแดงลงไปหลังจากที่ทำเสร็จเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมหวาน
ข้าวซอยไก่เป็นอาหารที่สามารถลองทำเองที่บ้านได้ เพื่อสัมผัสกับรสชาติและความอร่อยของเมนูนี้ อย่าลืมเสิร์ฟรวมกับผักดองหรืออาจเพิ่มผักสดเพื่อสุขภาพที่ดี และสำหรับคนที่ชอบรสเผ็ด สามารถเพิ่มพริกแห้งคั่วเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมและรสชาติที่จัดจ้านยิ่งขึ้นได้
อาหารไทย #10
ลาบหมู (ยำ)
ลาบหมู เป็นอาหารไทยที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ นับเป็นเมนูที่มีรสชาติเข้มข้ม เผ็ด หวาม เค็ม มันอย่างครบเครื่อง การทำลาบหมูนั้นไม่ได้ยาก แต่ต้องใส่ใจในการเตรียมเนื้อหมูและส่วนผสมสำคัญต่างๆ เพื่อให้ได้รสชาติและกลิ่นหอมที่อร่อยที่สุด

วิธีการทำลาบหมู
- สับเนื้อหมูให้ละเอียดเต็มถ้วย และนำไปต้มในน้ำเดือดจนสุกสุด อย่าลืมใส่เกลือเล็กน้อยในน้ำเพื่อให้เนื้อหมูอร่อยขึ้น
- ใส่ข้าวคั่วบดหยาบ ใบมะกรูดฉีกออกมา หอมแดงซอย ผักชีซอย หัวใหญ่หั่นเป็นชิ้น และถั่วพลูใส่ลงไปในชามเตรียมไว้
- ทำน้ำซอสลาบโดยผสมน้ำปลา น้ำตาล น้ำมะนาว และพริกป่น คนให้เข้ากันให้เป็นน้ำซอสลาบที่มีรสชาติเผ็ดหวาน และหอมหวาน
- นำน้ำซอสลาบใส่ลงไปในชามที่มีเนื้อหมูและส่วนผสมอื่นๆ คลุกเคล้าให้เข้ากัน โรยข้าวคั่วบดเพื่อความหอมอร่อย เสริฟพร้อมใบสะระเหน่และผักสดต่างๆตามความชอบ
เคล็ดลับการทำลาบหมูให้อร่อย
- สำหรับเครื่องปรุงรสในลาบหมู หากไม่ชอบรสเผ็ด สามารถลดปริมาณพริกป่นลงหรือไม่ใส่เลยก็ได้ แต่ถ้าชอบรสเผ็ดแซ่บ ก็สามารถเพิ่มปริมาณพริกป่นเพิ่มเติม
- การใช้ใบมะกรูดฉีก และหอมแดงซอย ช่วยเพิ่มกลิ่นหอมหวานให้กับลาบหมู
- ข้าวคั่วบด เป็นส่วนประกอบที่สำคัญมากและขาดไม่ได้ของเมนูอาหารจานนี้ ใช้โรยก่อนเสริฟเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมและรสชาติที่กลมกล่อมยิ่งขึ้น
ลาบหมูเป็นเมนูอาหารที่มีรสชาติสดชื่นและเผ็ดหวาน นอกจากนี้ยังเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูงจากเนื้อหมูและข้าวคั่วบด ในการเตรียมอาหารเมนูนี้ ควรใส่ใจในการเลือกเนื้อหมูที่สดใหม่และส่วนผสมที่สะอาด เพื่อให้ได้ลาบหมูที่อร่อยนุ่มนวลและประทับใจที่สุด!
สรุป: 10 อาหารไทยที่ดีที่สุดที่คุณต้องลองเมื่อมาเยือนประเทศไทย
ประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าตื่นตาตื่นใจด้วยอาหารเลิศรสที่ให้บริการอาหารและอาหารที่หลากหลาย เป็นที่รู้จักกันดีในด้านอาหารทะเลและเป็นที่รู้จักในฐานะประเทศที่ผสมผสานวัฒนธรรมไทย ดั้งเดิม เข้ากับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย
สรุปได้ว่า หากคุณกำลังมองหาที่จะเพลิดเพลินกับอาหารไทยต้นตำรับแล้วล่ะก็ ไม่ต้องไปไกลถึงประเทศไทย ด้วยตัวเลือกอาหารไทยมากมาย มีบางอย่างสำหรับทุกคน! หากคุณกำลังมองหาอาหารไทยในประเทศไทย บทความนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุด หวังว่าคุณจะสนุกกับการอ่านบทความนี้และตรวจสอบอาหารไทยที่แนะนำเหล่านี้ในครั้งต่อไปที่คุณมาเที่ยวประเทศไทย
คุณเคยลองอาหารไทยเหล่านี้หรืออาหารอื่น ๆ ที่คุณลองแต่ไม่มีในรายการของเราหรือไม่! กรุณาทิ้งข้อความของคุณด้านล่าง เราชอบที่จะได้ยินความคิดเห็นของคุณ !!
ที่มา: https://th.wikipedia.org/
TAG: